เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยเหตุการณ์หลอนกลางซากตึกถล่ม “พาหนูกลับบ้านหน่อย”

เผยแพร่เมื่อ 11 เมษายน

นางสาวอภิชฎา หรือ “อ้อม” เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยเหตุการณ์ชวนขนลุกที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

อ้อมเล่าว่า เธอเข้าไปช่วยดูแลด้านการแพทย์ร่วมกับศูนย์เอราวัณ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ โดยเตรียมพร้อมช่วยเหลือหากพบผู้รอดชีวิต และคอยสนับสนุนทีมกู้ภัยภายในพื้นที่ซากอาคาร

กระทั่งคืนหนึ่ง ขณะพักผ่อนอยู่ในเต็นท์แพทย์ เวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีสอง ขณะเริ่มเคลิ้มหลับ จู่ ๆ ได้ยินเสียงผู้หญิงกระซิบข้างหูว่า

“พี่คะ พาหนูกลับบ้านหน่อย หนูอยากกลับบ้าน”

แม้จะง่วงแต่ยังรู้สึกตัว เธอจึงตอบกลับไปว่า

“รู้แล้ว เดี๋ยวจะพากลับนะ แต่ขอนอนพักก่อน จะพากลับทุกคนแน่นอน”

เสียงนั้นยังคงพูดซ้ำว่า

“หนูอยากกลับบ้าน พาหนูกลับหน่อย”

พร้อมกับมีเสียงคนเดินและพูดคุยวนเวียนรอบเต็นท์อย่างไม่ขาดสาย แต่เมื่อมองออกไปกลับไม่เห็นใครเลย

อ้อมเล่าว่าเธอถามกลับไปว่า “พี่ชื่ออะไร” เสียงนั้นตอบว่า “ชื่อส้ม” แม้จะไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อจริงหรือไม่ แต่เธอก็กล่าวย้ำอีกครั้งว่า

“ไม่ต้องห่วงนะ จะพากลับทุกคน ทุกคนกำลังช่วยกันอยู่ แต่ตอนนี้หนูเหนื่อย ขอพักก่อน”

เหตุการณ์นี้ยังคงตราตรึงในความทรงจำของเธอ และสะท้อนถึงภารกิจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไม่เพียงต้องเผชิญความเหน็ดเหนื่อย แต่ยังมีเรื่องราวที่เกินคำอธิบายเกิดขึ้นในพื้นที่ภัยพิบัติ

เรื่องเล่าหลอนกลางซากอาคาร สตง. ถล่ม – ได้ยินเสียงขอให้พากลับบ้าน

เผยแพร่เมื่อ 12 เมษายน 2568 เวลา 01.30 น.

จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา นางสาวอภิชฎา หรือ “อ้อม” เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เปิดเผยประสบการณ์ขนลุกระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยค้นหาผู้สูญหาย

ในคืนหนึ่ง ขณะพักอยู่ในเต็นท์แพทย์ เวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีสอง เธอได้ยินเสียงผู้หญิงกระซิบข้างหูว่า

“พี่คะ พาหนูกลับบ้านหน่อย หนูอยากกลับบ้าน”

แม้จะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น และร่างกายขยับไม่ได้ แต่เธอก็พยายามตอบว่า

“รู้แล้ว เดี๋ยวจะพากลับนะ แต่ขอนอนพักก่อน จะพากลับทุกคนแน่นอน”

เสียงนั้นยังคงพูดซ้ำ:

“หนูอยากกลับบ้าน พาหนูกลับหน่อย”

อ้อมเล่าว่า ในขณะนั้นเห็นเพื่อนข้างๆ นั่งเล่นมือถือ ส่วนคนอื่นๆ ก็หลับกันหมด เธอรู้สึกถึงเสียงคนเดินและพูดคุยวนเวียนรอบเต็นท์ แต่เมื่อมองออกไปกลับไม่เห็นใครเลย

เมื่อถามชื่อกลับไป เสียงนั้นตอบว่า “ชื่อส้ม” แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อจริงหรือไม่

ประสบการณ์เหนือธรรมชาติของทีมกู้ภัย

อ้อมเผยว่าเช้าวันรุ่งขึ้นไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะกลัวถูกมองว่า “คิดไปเอง” ทั้งที่ความตั้งใจจริงคืออยากพาทุกคนกลับบ้าน

เธอยังเสริมว่า ไม่ใช่เธอคนเดียวที่พบเรื่องประหลาด บางทีมกู้ภัยรายงานว่าเคยเห็น “ร่างครึ่งท่อน” หรือแม้แต่มี “คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย” ทั้งที่ไม่มีใคร

ความคืบหน้าล่าสุดการค้นหาผู้สูญหาย

อัปเดตเวลา 00.30 น. วันที่ 12 เมษายน 2568

มูลนิธิร่วมกตัญญูยืนยันว่า สามารถนำผู้สูญหาย “เคสสีดำ” ออกมาได้ 1 ราย เป็นรายที่ 28

อัปเดตเวลา 01.10 น.

ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถนำผู้สูญหาย “เคสสีดำ” เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 29 โดยทั้งสองรายพบอยู่บริเวณด้านบน โซน C

ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเพศหญิงหรือชาย และไม่ใช่จุดที่เจ้าหน้าที่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์หรือเห็นแสงไฟจากภายในมาก่อน