พบเสือโคร่งอินโดจีนในป่าตะวันตก

พบเสือโคร่งอินโดจีนในป่าตะวันตก

เสือโคร่งอินโดจีน

พบ “เสือโคร่งอินโดจีน” ตัวใหม่ในป่าตะวันตก นักวิจัยเผยเป็นสัญญาณฟื้นตัวของระบบนิเวศ

จังหวัดกาญจนบุรี — 17 พฤษภาคม 2568

นักวิจัยจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียรและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (Camera Trap) ที่ติดตั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จับภาพ “เสือโคร่งอินโดจีน” ตัวใหม่ ซึ่งไม่เคยมีบันทึกมาก่อน คาดว่าเป็นเสือเพศผู้ อายุประมาณ 3-4 ปี

การพบเสือตัวใหม่นี้นับเป็นข่าวดีสำหรับวงการอนุรักษ์ เนื่องจากเสือโคร่งอินโดจีน (Panthera tigris corbetti) จัดเป็นสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ โดยในธรรมชาติคาดว่ามีจำนวนเหลือเพียง 200-250 ตัวในประเทศไทย

นักวิจัยเผย ระบบนิเวศเริ่มฟื้นตัว

นายปรีชา รุ่งเรือง นักวิจัยด้านสัตว์ป่าจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า “การพบเสือตัวใหม่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ป่ามีแหล่งอาหารเพียงพอ ทั้งกวาง หมูป่า และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดกลางอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าระบบนิเวศกำลังฟื้นตัวดี”

กล้องดักถ่ายยังบันทึกภาพเสือโคร่งอีก 4 ตัว ซึ่งมีลักษณะลายข้างลำตัวที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถยืนยันตัวบุคคลของเสือแต่ละตัวได้ และจากข้อมูลดังกล่าว ทีมงานได้จัดทำแผนที่การกระจายตัวของเสือในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้การอนุรักษ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความร่วมมือของชุมชนมีบทบาทสำคัญ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานและองค์กรอนุรักษ์ร่วมมือกับชาวบ้านรอบพื้นที่ป่าในการเฝ้าระวังการล่าสัตว์และลดความขัดแย้งระหว่างคนกับเสือ โดยจัดเวรยามลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol) และอบรมชาวบ้านให้เข้าใจถึงความสำคัญของสัตว์ผู้ล่าในห่วงโซ่อาหาร

“ตอนนี้ชาวบ้านเองก็รู้สึกภูมิใจที่มีเสืออยู่ในป่าบ้านเขา เพราะรู้ว่าเสือเป็นตัวบ่งชี้ว่าป่าของเขายังสมบูรณ์” นางสาววิภาดา อินทรสุวรรณ เจ้าหน้าที่อุทยานกล่าว

แนวโน้มในอนาคต

นักวิชาการเตือนว่า แม้สถานการณ์ของเสือโคร่งจะดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเผชิญกับความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบล่าสัตว์ และการรุกล้ำของพื้นที่เกษตร ดังนั้นการอนุรักษ์จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากรัฐและภาคประชาชน

หมวดหมู่ยอดนิยม