จีนเผยพร้อมเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่ย้ำ "ต้องมีความจริงใจ"

เช้าวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า รัฐบาลกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ โดยระบุว่า "หากจะเจรจา ประตูก็เปิดอยู่ แต่สหรัฐฯ ต้องแสดงความจริงใจ และยกเลิกมาตรการภาษีที่ใช้ฝ่ายเดียวก่อน"

คำแถลงนี้เกิดขึ้นหลังบัญชี Weibo ที่เชื่อมโยงกับสื่อทางการจีนระบุว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเสนอการเจรจา ขณะที่ทรัมป์ก็อ้างว่าการหารือเริ่มขึ้นแล้ว แต่จีนกลับปฏิเสธและย้ำว่า "สหรัฐฯ ต่างหากที่ร้อนใจมากกว่า"

การรักษาภาพลักษณ์ = ความสำคัญสูงสุด

ศ.จา เอียน ชง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ วิเคราะห์ว่า ทั้งสองประเทศมีแรงจูงใจที่จะลดความขัดแย้ง แต่ก็ไม่อยากดูอ่อนแอ ขณะที่ เหวิน-ตี้ ซ่ง นักวิชาการจีนในออสเตรเลีย เปรียบสถานการณ์นี้เหมือน "รถแข่งที่ไม่มีใครอยากหักหลบก่อน"

ซ่งชี้ว่า จีนอาจใช้ยุทธศาสตร์ “ความคลุมเครือเชิงสร้างสรรค์” ด้วยถ้อยคำที่ตีความได้หลายแง่ เพื่อเปิดช่องให้เจรจาได้โดยไม่เสียหน้า เช่น การอ้างว่า “เพียงตอบสนอง” แทนที่จะ “เริ่มต้น”

แรงกดดันภายในประเทศผลักดันการเจรจา

ทรัมป์เผชิญความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ส่วนสี จิ้นผิง ต้องรับมือกับเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นหลังโควิด และวิกฤตในประเทศ

ซ่งกล่าวว่า ทั้งสองรู้ดีว่าไม่มีใครชนะขาดในสงครามการค้านี้ แต่ทรัมป์ต้องการแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเขา "ทำให้จีนยอมจำนน" ขณะที่สี จิ้นผิงก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ว่า "ตะวันออกผงาด ตะวันตกถดถอย"

โอกาสยังมี แม้ไม่มีใครยอมก่อน

แม้สหรัฐฯ ยังไม่ปฏิเสธว่าตนเป็นฝ่ายเสนอเจรจา แต่การที่ทั้งสองฝ่ายพูดถึงการเจรจา แสดงให้เห็นว่ามีการติดต่อกันอยู่บ้าง ศ.ชงมองว่า "นั่นคือสัญญาณของโอกาส" แต่ยังไม่ใช่สัญญาณของทางออก เพราะ "ทั้งสองฝ่ายยังรอดูว่าใครจะกะพริบตาก่อน"