อายัดตัว "เอกพจน์" อดีตพระคนสนิท "ทิดแย้ม" เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้

อายัดตัว "เอกพจน์" อดีตพระคนสนิท "ทิดแย้ม" เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้

อายัดตัว "เอกพจน์" อดีตพระคนสนิท "ทิดแย้ม" เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจไซเบอร์ สังกัด สอท.3 ได้อายัดตัว นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง ซึ่งเป็นอดีตพระคนสนิทของ “ทิดแย้ม” หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

การอายัดตัวครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 มกราคม 2568 ในข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน ได้แก่ “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”

นอกจากนี้ ยังมีข้อหา สมคบกันฟอกเงิน โดยมีการตกลงร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดตามที่สมคบกัน พร้อมทั้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน อีกด้วย

ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายเอกพจน์ยังบวชเป็นพระ ได้มีพฤติกรรมนำเงินจาก อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ นายแย้ม ไปฝากตามตู้รับฝากเงินอัตโนมัติตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อโอนต่อไปยังบัญชีของ นางสาวอรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ซึ่งมีบทบาทเป็น นายหน้าเว็บพนันออนไลน์

หลังการจับกุม นายเอกพจน์ถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สอท.3 แจ้งวัฒนะฯ กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการซักถามเพิ่มเติม ก่อนนำตัวฝากขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเตรียมส่งตัวไปยังศาลในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้

ตำรวจตรวจค้นวัดไร่ขิง พบอดีตเจ้าอาวาสโอนเงินให้สาวคนสนิทกว่า 847 ล้านบาท

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จากกรณีในช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลัง ตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจค้นพื้นที่ วัดไร่ขิง จำนวน 3 จุด พร้อมหมายค้นบ้านเจ้าหน้าที่วัดอีก 1 จุด เพื่อตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ คดียักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท

หนึ่งในจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คือ กุฏิของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้นำเข้าตรวจค้นและร่วมสังเกตการณ์ตลอดการดำเนินการ

ผลการตรวจค้นซึ่งใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง พบเอกสารและอุปกรณ์จำนวนมาก โดยมีการยึด เอกสารรายรับรายจ่ายจำนวน 10 ลัง ซึ่งภายในบรรจุเอกสารเกือบ 100 แฟ้ม รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่อาจเชื่อมโยงกับคดี

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินเบื้องต้น พบว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงมีการโอนเงินรวมกว่า 847 ล้านบาท ไปยังบัญชีของหญิงสาวคนสนิทที่ไม่มีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับวัดแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเชิงลึกเพิ่มเติม

นอกจากนี้ พระคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส ถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำในฐานะพยาน เพื่อขยายผลไปสู่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่น

ความคืบหน้าคดีเงินวัดไร่ขิง พบเส้นทางโอนเงิน 847 ล้านบาท

ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดจากการตรวจค้นวัดไร่ขิง รวมถึงเอกสารจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ประกอบในสำนวนคดี และคำให้การของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยหลักฐานถูกนำไปลงบันทึกประจำวันที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ก่อนจะส่งต่อไปยัง กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการต่อ

มีรายงานว่า พระคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยที่พักอยู่กุฏิเดียวกัน มีบทบาทสำคัญในคดี โดยเป็นผู้ที่นำเงินจากอดีตเจ้าอาวาสไปโอนเข้าบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมกว่า 600 ล้านบาท และยังพบว่ามีบัญชีของบุคคลใกล้ชิดที่รับโอนเงินจากอดีตเจ้าอาวาสเช่นกัน จนยอดรวมสูงถึง 847 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอีกว่า ภายในวัดยังมีบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของ มูลนิธิในวัด มากกว่า 10 บัญชี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบยอดเงินว่ามีความเชื่อมโยงกับการโอนเงินหรือไม่

อีกหนึ่งประเด็นที่ยังรอการตรวจสอบคือ ตู้เซฟขนาดใหญ่ ภายในกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งตั้งอยู่ข้างบริเวณที่จำวัด โดยเจ้าหน้าที่กำลังรอ บริษัทตู้เซฟนำรหัส มาเปิดเพื่อเข้าตรวจสอบภายใน

ต่อมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ได้เดินทางมายังโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เพื่อสอบปากคำ พระคนสนิท และพบว่าเป็นบุคคลที่ทำหน้าที่โอนเงินไปยังบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมถึงมีการเชิญตัว คนขับรถของอดีตเจ้าอาวาส มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย

ขณะเดียวกันตำรวจยังได้เชิญ ไวยาวัจกรของวัดไร่ขิง มาสอบถามที่วัด เนื่องจากโดยปกติแล้ว การเบิกจ่ายเงินจากบัญชีวัดจะต้องมีลายเซ็นของกรรมการวัดอย่างน้อย 2 คน ซึ่งถือเป็นพยานในการดำเนินการทางการเงินของเจ้าอาวาส

ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์หลังจากใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการสอบปากคำ พระวชิรปัญญาพร หรือ พระอ๋อ เลขานุการเจ้าคณะภาค 14 และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยระบุว่ายังสอบสวนไม่เสร็จ และจะเชิญตัวพระอ๋อไปสอบเพิ่มเติมในฐานะพยานที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เนื่องจากเป็นพระรูปที่ใกล้ชิดกับอดีตเจ้าอาวาสมากที่สุด

เส้นทางการเงินวัดไร่ขิงขยาย พบเงินอาจเกิน 300 ล้าน - เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

มีการเปิดเผยว่า พระอ๋อ หรือ พระวชิรปัญญาพร ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการเจ้าคณะภาค 14 ได้ทำหน้าที่ เก็บเอกสารสำคัญในการใช้จ่ายของวัด โดยตำรวจได้ยึดทั้ง คอมพิวเตอร์และเอกสารต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเชื่อมโยงกับคดีฟอกเงินหรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ว่า พระอ๋อไม่ใช่หลานของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ตามที่เคยมีข่าวลือแพร่ก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า มี ปัญหาความขัดแย้งบางประเด็น ระหว่าง อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงกับ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ในขณะนี้ โดยขอเน้นตรวจสอบไปที่ เส้นทางการเงิน และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ก่อน

ขณะนี้พบว่า วัดไร่ขิงมีบัญชีธนาคารจำนวนมาก บางบัญชีถูกปิดไปแล้วหลังสิ้นสุดกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด ซึ่งทั้งหมดจะต้องถูกตรวจสอบย้อนหลัง ทำให้จำนวนเงินจากเดิมที่พบว่า อยู่ที่ 300 ล้านบาท อาจ มีมากกว่านั้น โดยยังไม่สามารถระบุยอดรวมที่แน่ชัดได้ในตอนนี้

สำหรับกระบวนการเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนั้น พบว่า อดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจลงนามในทุกบัญชี และจะมีการแต่งตั้งบุคคลรับผิดชอบประจำแต่ละบัญชีอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่

สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง อาจมีการ ตั้งคณะกรรมการพิเศษ ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้พบว่ามี ผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย ที่อาจมีส่วนรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายเงินเหล่านี้

ส่วนกรณีของ นายเอกพจน์ อดีตพระลูกวัดที่สนิทกับอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งมีหมายจับเกี่ยวกับ คดีพนันออนไลน์ ทางตำรวจสอบสวนกลางได้ประสานงานกับ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินการ อายัดตัว และเตรียมส่งกลับไปดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน ตู้เซฟขนาดใหญ่ ภายในกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งยังไม่สามารถเปิดได้ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ เคลื่อนย้ายตู้เซฟไปไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการเปิดตรวจสอบภายหลัง

หมวดหมู่ยอดนิยม