เปิดใจ"ลุงเอี่ยม" หลังเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงถูกจับคดียักยอกเงินวัด

เปิดใจ"ลุงเอี่ยม" หลังเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงถูกจับคดียักยอกเงินวัด

icle>

เปิดใจลุงเอี่ยม หลังเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงถูกดำเนินคดียักยอกเงินวัด

จากกรณีข่าวฉาวในวงการผ้าเหลือง เมื่อ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม และ เจ้าคณะภาค 14 ได้เดินทางเข้ามอบตัวพร้อมทนายความและคณะพระผู้ติดตาม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดี ทุจริตยักยอกเงินวัด รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในวัดไร่ขิงในวันนี้ มีการพูดถึงบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งในความทรงจำของผู้ศรัทธา คือ “ลุงเอี่ยม” ขอทานเงินล้าน ผู้เคยตกเป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อนจากการที่ได้นำเงินบริจาคส่วนตัวจำนวน 2-3 ล้านบาท มอบให้กับ เจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงในขณะนั้น

โดยเงินบริจาคดังกล่าว ลุงเอี่ยมตั้งใจให้ใช้ในการ พัฒนาวัดและโรงพยาบาล เพื่อประโยชน์แก่ชุมชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นการให้ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวของเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ได้สร้างความสั่นสะเทือนแก่ผู้เคยศรัทธา และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของญาติโยมที่เคยร่วมบริจาคเงินเพื่อกิจการของวัดไร่ขิง

หลังเกิดเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออก หมายจับพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในคดี ยักยอกเงินวัดมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ได้สร้างแรงสะเทือนต่อความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับกรณีของ ลุงเอี่ยม ชายพิการที่เคยตกเป็นข่าวโด่งดังจากการ บริจาคเงินส่วนตัวหลายล้านบาทให้กับวัดไร่ขิง

เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าคุณแย้ม แม้จะมีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรงครบ 32 ประการ กลับถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดจำนวนมหาศาล ขณะที่ ลุงเอี่ยม ซึ่งเป็นชายพิการ กลับแสดงน้ำใจงามด้วยการนำเงินที่หามาได้จากการขอทาน มอบให้วัดหลักล้านบาท

ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่วัดไร่ขิง และได้พบกับ ลุงเอี่ยม ซึ่งยังคงใช้ชีวิตตามปกติภายในวัด นั่งอยู่บน รถเข็นขอทาน ใบหน้าที่ยังคง ยิ้มแย้มแจ่มใส แม้สถานการณ์จะตึงเครียดก็ตาม โดยลุงเอี่ยมยังเป็นที่สนใจของผู้คนที่มาไหว้พระ ซึ่งจำเขาได้ดีว่าเคยบริจาคเงินให้วัดด้วยใจศรัทธา

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลุงเอี่ยมแสดงท่าทีสงสัยและเศร้าสร้อย โดยพยายามถามว่า “เจ้าคุณแย้มถูกข้อหาอะไร” ก่อนจะแสดงสีหน้าที่สะท้อนถึงความเสียใจอย่างชัดเจนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งมุมสะท้อนของศรัทธาในศาสนา ที่ผู้ให้แม้จะมีน้อยกลับให้ด้วยใจบริสุทธิ์ ขณะที่ผู้มีมากกลับถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในหน้าที่และความรับผิดชอบ

แม้วันนี้ ลุงเอี่ยม จะไม่ได้ขอทานอีกต่อไป และไม่มีรายได้ที่แน่นอน แต่เขายังคงดำเนินชีวิตอย่าง สงบเสงี่ยม เรียบง่าย ไม่เคยออกมาเรียกร้องสิ่งใดจากสังคม ไม่ว่าในช่วงเวลาที่ลำบากหรือไร้ผู้เหลียวแล

มีรายงานว่า แม้บางครั้งจะไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ลุงเอี่ยมก็ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะในอดีต เขา “เคยให้” มากกว่าที่เคย “รับ

จากความเสียสละที่ไม่หวังผลตอบแทนนี้ ลุงเอี่ยมเคยได้รับ การยกย่องจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้เป็น บุคคลต้นแบบของผู้เสียสละ ผู้แม้จะเป็นผู้ด้อยโอกาสทางร่างกาย แต่กลับมีหัวใจที่ไม่เคยทอดทิ้งสังคม

ท่ามกลางข่าวฉาวที่เกี่ยวข้องกับ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ คดีเงินวัดมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ชื่อของลุงเอี่ยมได้ถูกพูดถึงอีกครั้ง จากการที่เขาเคยนำเงินหลักล้านบาทจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง มอบให้วัดด้วยศรัทธาบริสุทธิ์

ในขณะที่สังคมตั้งคำถามถึง ความโปร่งใสของการบริหารเงินในวัด เรื่องราวของลุงเอี่ยมกลับกลายเป็นอีกด้านหนึ่งของสังคมไทย ที่ยังมีคนตัวเล็ก ๆ แสดงออกถึง ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

หากมองให้ลึก เรื่องของลุงเอี่ยมอาจเป็นมากกว่าข่าวบุคคลทั่วไป เพราะมันคือ “ภาพสะท้อน” แห่ง การให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน และ ความศรัทธาที่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมกำลังขาดแคลนในยุคปัจจุบัน

หมวดหมู่ยอดนิยม