สาธุ
สามเพื่อนสนิทคนรุ่นใหม่ไฟแรงต้องหาทางใช้หนี้ก้อนโต หลังสตาร์ทอัพของพวกเขาล้มไม่เ...
วอลเตอร์ ไวท์(ไบรอัน แครนสตัน) ครูสอนเคมีในโรงเรียนมัธยม ที่พบว่าตนเป็นมะเร็งปอด และยังไม่สามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้มากพอ จนภรรยาของเขาอย่าง สไกเลอร์(แอนนา กันน์) ต้องขายของเล็กๆน้อยๆในบ้านเพื่อนำเงินมาช่วยจุนเจือครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้ดูข่าวที่ แฮงก์(ดีน นอร์ริส) น้องเขยของเขาสามารถจับผู้ค้ายารายใหญ่ได้ และเมื่อเขาเห็นว่าการค้ายานั้นทำเงินได้ดีมากเพียงใด นั่นจึงทำให้เขาได้พบกับ เจสซี่ พิงค์แมน(แอรอน พอล) เด็กติดยาไม่เอาไหนที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการค้ายาไอซ์ เขาสองคนเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน โดยวอลเตอร์ ไวท์ได้ใช้ความรู้ทางเคมีของเขาในการผลิตยาไอซ์ นั่นจึงทำให้ยาไอซ์ของเขานั้นบริสุทธิ์ถึง 99.1%
Breaking Bad ชื่อเสียงอิทธิฤทธิ์ของซีรีส์เรื่องนี้คือ ต้องดูผ่านให้ได้ซัก 2-3 ตอน จะทำให้พอตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อหรือไม่ เพราะเนื้อหาของเรื่องมีความนิ่ง แต่บนความนิ่งเราก็รู้แก่ใจว่านี่เป็นโครงเรื่องที่ดีมาก ตัวละครหลักน่าสนใจ เพียงแต่มันอาจไม่ใช่ซีรีส์ที่ดูสนุกดึงดูดในทันที ว่ากันตามจริงต้องผ่านความยากลำบากใน 3 ตอนแรก หรือถึงขั้นต้องดูให้จบผ่านไป 1 ซีซั่นก็จะบอกได้ว่าซีรีส์นี้ตรงจริตคนดูหรือไม่ เล่ามาแบบนี้ทำไมการดูซีรีส์เรื่องนี้ถึงดูยากเย็นเหมือนจะทรมาน นั่นก็เพราะจังหวะเดินเรื่องที่นิ่งและมีความดราม่าอาชญากรรมจนดูเครียด แต่ด้วยเส้นเรื่องและการวางคาแร็กเตอร์ให้ตัวละครหลักออกมาได้เฉียบคม จนตัวละครเอกของเรื่อง “วอลเตอร์ ไวท์” กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำ เมื่อชายวัยกลางคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาออกจากงานที่น่าเบื่อและกลายเป็นคนนอกกฎหมาย
วอลเตอร์ครูสอนวิชาเคมีโรงเรียนมัธยมที่เจอมรสุมชีวิตกดดัน ทั้งความรับผิดชอบหารายได้ดูแลครอบครัว และยังเผชิญช่วงเวลาหมดไฟในอาชีพการงาน หนำซ้ำยังเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ดูเหมือนทั้งชีวิตและจิตใจอับเฉาจนหนทาง สุดท้าย “วอลเตอร์” เลือกเข้าสู่เส้นทางนักค้ายา ใช้ความเก่งกาจของนักเคมีระดับหัวกะทิมาเป็นนักปรุงยาไอซ์เพื่อหารายได้เสริมเก็บเงินให้มากที่สุดทิ้งไว้ให้ครอบครัว การกระโจนและตัดสินใจไปใช้ชีวิตอาชญากรรม โดยมีอาชีพครูและพ่อบ้านอ่อนโยนบังหน้า ค่อยๆ คลายเปลือกเนื้อแท้ให้เราเห็น “วอลเตอร์” ในด้านที่มืดที่สุดเข้าไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าเขาจะเก่งฉกาจบนเส้นทางนี้มากด้วย
เจสซี่ คืออดีตลูกศิษย์ของวอลเตอร์ ผู้ที่เคยอยู่ในวงการยาเสพติดมาก่อน และกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในฐานะ “คู่หูปรุงยา” จากวัยรุ่นที่เหลวไหล เจสซี่ก็ค่อยๆ ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ และกลายเป็นตัวละครที่น่าสงสารและน่าเห็นใจไม่น้อย
Breaking Bad ไม่ใช่แค่เรื่องของการผลิตยา แต่เป็นการสำรวจจิตใจของมนุษย์ พัฒนาการของตัวละครมีความสมจริง และซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงของวอลเตอร์และเจสซี่ ทั้งในความสัมพันธ์และในบทบาท ทำให้เรื่องราวน่าติดตามอย่างมาก
ฉากหลักของซีรีส์อยู่ใน อัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก พื้นที่ทะเลทรายแห้งแล้งช่วยเสริมบรรยากาศความดาร์กของเรื่องได้อย่างลงตัว และไม่หลุดธีมตลอดทั้งเรื่อง แม้จะมีซีซั่นหลายซีซั่น แต่เนื้อเรื่องไม่ออกทะเลเลย
Breaking Bad คือซีรีส์ที่ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องดี แต่ยังจบได้อย่างสมศักดิ์ศรี เส้นแบ่งระหว่าง “ความดี” กับ “ความชั่ว” ในเรื่องนี้เลือนราง และแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ ผ่านตัวละคร วอลเตอร์ ไวท์ ที่เปลี่ยนจากคนธรรมดา เป็นวีรบุรุษผู้สิ้นหวัง ที่คุณจะลืมไม่ลง
บอกได้เลยว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเป็นซีรีส์ที่ควรดูสักครั้งในชีวิต ซีรีส์เรื่องนี้ต้องค่อยๆ ใช้ความอดทนใน 2-3 ตอนแรก แต่ถ้าอดทนดูได้ ตอนต่อไปจะน่าสนใจมากๆ จนทำให้เราอยากติดตามการดำเนินไปของแต่ละตัวละคร
เรื่องราวทำให้เราอยากรู้ว่าตัวละครแต่ละตัวจะจบลงอย่างไร และในแต่ละตอน บอกได้เลยว่าหยุดดูไม่ได้จริงๆ
ใครที่สนใจหรือลังเลว่าจะดูซีรีส์เรื่องนี้อยู่ไหม บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!!!
สามเพื่อนสนิทคนรุ่นใหม่ไฟแรงต้องหาทางใช้หนี้ก้อนโต หลังสตาร์ทอัพของพวกเขาล้มไม่เ...
Marvel Studios ทำให้ผู้ชมต่างตื่นเต้นกันอย่างมากในวันพุธ หลังจากที่พวกเขาค่อยๆ เ...
หนังใหม่สายแอ็คชั่น-คอมเมดี้ ต้อนรับเดือนพฤษภาคม ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของอดีตส...