กู้ภัยพบแสงไฟโทรศัพท์มือถือ ใต้ซากตึกถล่ม โซน B ลุ้นเป็นสัญญาณจากผู้รอดชีวิต

กู้ภัยพบแสงไฟโทรศัพท์มือถือ ใต้ซากตึกถล่ม โซน B ลุ้นเป็นสัญญาณจากผู้รอดชีวิต

กู้ภัยพบแสงไฟมือถือใต้ซากตึกถล่ม โซน B ลุ้นเป็นผู้รอดชีวิต

วันที่ 11 เมษายน 2568

นายภคพล เมธีภักดี อาสากู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่วนใหญ่กำลังพักผ่อน ทีมของมูลนิธิเพชรเกษมที่รับผิดชอบพื้นที่ โซน B ได้พยายามเข้าไปเจาะโพรงใต้ซากอาคารที่พยายามมาแล้วหลายวัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเช้านี้จึงสามารถเจาะทะลุได้

โพรงที่เจาะได้เป็นพื้นที่มืดและลึก ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภายใน ได้ยินเสียงเปิดโทรศัพท์มือถือ (Samsung) ดังขึ้น จึงก้มลงไปดู และพบแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือจากด้านล่าง

เจ้าหน้าที่จึงประสานให้ทีม USAR ที่มีอุปกรณ์เฉพาะทาง นำกล้องส่องลงไป และสามารถมองเห็นแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือจริงตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ

เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนสอบถามว่า:

“เป็นคนที่รอดชีวิตใช่ไหม?”

แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ทำให้เจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ที่อยู่ภายในอาจหมดแรงหรือไม่สามารถส่งเสียงได้

จึงแจ้งไปว่า:

“ถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ หรือเป็นคนที่อยู่ข้างล่าง ให้ปิดไฟหน้าจอมือถือ”

ทันใดนั้น แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ดับลง สร้างความตื่นเต้นให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่

จากนั้น เจ้าหน้าที่สื่อสารกลับไปอีกครั้งว่า:

“ให้เปิดไฟหน้าจอมือถือ”

แสงไฟจากโทรศัพท์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นจำนวน 3 ถึง 4 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า มีผู้รอดชีวิตอยู่ภายในโพรงใต้ซากตึกบริเวณโซน B

หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพชรเกษมพบแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือใต้ซากตึกโซน B ล่าสุดได้นำกล้องเรดาร์ความละเอียดสูงเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม และพบสัญญาณที่น่าตกใจ — มีลักษณะคล้ายร่างมนุษย์อยู่ใกล้กัน 2–3 คน ภายในโพรงแคบๆ ใต้ซากอาคาร

โดยร่างแรกตรวจพบอยู่ในความลึกประมาณ 1 เมตร ส่วนอีกร่างอยู่ลึกลงไปที่ประมาณ 3 เมตร และยังพบอีก 1 เงาลึกลงไปอีกใกล้เคียงกัน

เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีกลิ่นเน่าออกมาจากโพรง ซึ่งทำให้ยังคงมีความหวังว่าผู้ที่อยู่ข้างในอาจยังมีชีวิต

เตรียมนำกล้อง 360 องศาตรวจสอบภายในโพรง

ทีม Usar ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยในแต่ละโซน เตรียม หย่อนกล้อง 360 องศา ลงไปในโพรง เพื่อดูสภาพภายในว่ามีผู้รอดชีวิตหรือร่างกายมนุษย์ทั้งหมดกี่ราย และอยู่ในลักษณะใด

อุปสรรคในการเข้าช่วยเหลือ

แม้จะมีสัญญาณที่ดี แต่การเข้าไปยังจุดนั้นยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพบว่า มีเหล็กเส้นจำนวนมากขวางทางเข้า และช่องโพรงมีขนาดเพียง 50 เซนติเมตร เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ลอดเข้าไปได้

ตอนนี้ภารกิจสำคัญคือ เร่งขยายปากโพรงให้กว้างขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงความลึก 1 เมตร ที่คาดว่ามีบุคคลหนึ่งอยู่ ณ ตำแหน่งนั้น

ทีมกู้ภัยทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติการแข่งกับเวลาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตในพื้นที่นี้ และสามารถช่วยเหลือได้ทันเวลา

หมวดหมู่ยอดนิยม