วิจัยใหม่เผย “เทคโนโลยี AI” จะเปลี่ยนแปลงวงการการแพทย์ในอนาคต

กรุงเทพมหานคร – การศึกษาล่าสุดจากนักวิจัยด้านเทคโนโลยีและการแพทย์พบว่า “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวงการการแพทย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยสามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคได้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงมีศักยภาพในการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของไทยร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เปิดเผยว่า AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลทางการแพทย์จำนวนมหาศาล เช่น ภาพการสแกน, ข้อมูลจากการตรวจเลือด และประวัติการรักษา เพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์โรคที่อาจเกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

หนึ่งในโครงการวิจัยที่น่าสนใจคือ การใช้ AI ในการตรวจจับโรคมะเร็งจากภาพสแกน MRI ซึ่งระบบ AI สามารถวิเคราะห์และพบสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งมีความแม่นยำใกล้เคียงกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ในบางกรณีก็สามารถทำได้ดีกว่า

ด้วยความสามารถนี้ จึงมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยี AI จะสามารถลดภาระงานของแพทย์ และเพิ่มความเร็วในการให้บริการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังคงมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความจำเป็นในการฝึกฝนระบบให้มีความแม่นยำสูง แต่การลงทุนในงานวิจัยและการพัฒนา AI ในการแพทย์ยังคงเป็นสิ่งที่หลายประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ นักวิจัยยังเชื่อว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า AI จะสามารถเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยปฏิวัติวงการแพทย์ทั้งในด้านการรักษาและการป้องกันโรคต่างๆ อย่างไรก็ตาม การผสมผสานความสามารถของ AI เข้ากับการดูแลและการตัดสินใจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการประกันความปลอดภัยของผู้ป่วย