ทรัมป์เตรียมเปิดใช้งานคุกอัลคาทราซอีกครั้ง?
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้ เปิดและขยายเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้ง เ...
นครปฐม – วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 – กลุ่มชาวบ้านในตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน รวมตัวกันกว่า 50 คน ร่วมกิจกรรม "คลองใส ใจสะอาด" เพื่อช่วยกันเก็บขยะและฟื้นฟูระบบนิเวศในลำคลองหลังพบปัญหาน้ำเน่าเสียและขยะสะสมเป็นจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างผู้นำชุมชน โรงเรียนวัดบางกระทึก และกลุ่มอาสาสมัคร “รักษ์บางกระทึก” ซึ่งได้ร่วมกันวางแผนและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า มีการลงเรือเก็บขยะ พลาสติก ถุงดำ เศษไม้ และขยะอินทรีย์ที่ลอยอยู่ในน้ำ บางจุดพบแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างพัดลมและหม้อหุงข้าวถูกทิ้งลงคลอง
นางสาวปวีณา สิทธิเสนา ครูโรงเรียนวัดบางกระทึก กล่าวว่า “ทางโรงเรียนเล็งเห็นความสำคัญของการปลูกจิตสำนึกให้เด็กนักเรียน จึงพานักเรียนระดับมัธยมปลายมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ เพื่อให้พวกเขาเห็นว่าแม้การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มจากจุดเล็กๆ แต่ถ้ารวมพลังกันก็สามารถฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้”
จากการสำรวจโดยชาวบ้านและกลุ่มอาสาสมัครพบว่า ขยะในลำคลองบางกระทึกมีปริมาณเฉลี่ยมากกว่า 500 กิโลกรัมต่อเดือน โดยส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติกประเภทถุงหูหิ้ว แก้วกาแฟ และภาชนะใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาพฤติกรรมผู้บริโภคและระบบจัดการขยะของชุมชนที่ยังไม่ครอบคลุม
นายชาญชัย สุวรรณ ผู้ปลูกผักริมคลองเผยว่า น้ำที่เคยนำมาใช้รดผักเริ่มมีกลิ่นเหม็นและมีคราบน้ำมันลอยปนอยู่ ทำให้ต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกมาใช้แทน ซึ่งเพิ่มต้นทุนกว่า 2,000 บาทต่อเดือน “เมื่อก่อนผมใช้คันคลองตรงนี้นำน้ำมาใช้โดยตรงได้เลย แต่เดี๋ยวนี้แม้แต่จะเข้าใกล้ก็ยังต้องใส่หน้ากากกันกลิ่น”
ขยะยังส่งผลต่อสัตว์น้ำในพื้นที่ นายประวิทย์ ลานโพธิ์ ชาวประมงพื้นบ้านเล่าว่า "ปลาหายไปเยอะมาก เมื่อก่อนทอดแหได้ปลาช่อน ปลาดุกวันละเป็นสิบ ตอนนี้ได้แต่ขยะขึ้นมาในแห"
ด้านสิ่งแวดล้อม นางสาวทิพย์ธิดา รัตนรักษ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เผยว่า “คลองคือระบบนิเวศที่เชื่อมโยงทั้งแหล่งน้ำ พืช สัตว์ และมนุษย์ การที่ขยะปนเปื้อนลงในน้ำจำนวนมากทำให้เกิดภาวะยูโทรฟิเคชัน (Eutrophication) หรือการที่น้ำมีสารอาหารเกินสมดุล ทำให้เกิดตะไคร่น้ำและแบคทีเรียเจริญเติบโต ส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลงและสัตว์น้ำตาย”
ในส่วนของเทศบาลตำบลบางกระทึก ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งประกาศแผนการติดตั้งถังขยะริมคลองในจุดเสี่ยง พร้อมจัดอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะและการจัดการน้ำเสียในครัวเรือน
นายอนันต์ เพ็ชร์ปาน ปลัดเทศบาล เผยว่า “เราจะไม่ปล่อยให้ชุมชนรับภาระเพียงลำพัง และจะผลักดันให้มีแผนจัดการระยะยาวทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างจิตสำนึก เช่น อาจมีการจัดเก็บค่าจัดการขยะเพิ่มจากร้านค้าในตลาด หรือกำหนดเขตปลอดโฟมในงานวัดของตำบล”
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนขนาดเล็ก และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ตะแกรงดักขยะอัตโนมัติ หรือแอปพลิเคชันแจ้งเตือนจุดขยะสะสมมาใช้ในอนาคต
ด้านเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ต่างแสดงความประทับใจและความตระหนักถึงปัญหา นายธีรภัทร พงศ์วัฒนากุล นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวว่า “ผมไม่เคยคิดว่าปัญหาจะรุนแรงขนาดนี้ พอก้มเก็บขยะแล้วรู้สึกว่าเราเองก็มีส่วนในสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้กลับไปผมจะช่วยบอกที่บ้านให้แยกขยะครับ”
แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ ในชุมชน แต่หลายฝ่ายต่างเห็นพ้องกันว่านี่คือสัญญาณของการตื่นตัวของชุมชนในการดูแลสิ่งแวดล้อมของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้ในอนาคต
นายสมชาย พัฒนานนท์ ตัวแทนชุมชนกล่าวทิ้งท้ายว่า “เราทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน ถ้ารอแต่หน่วยงานรัฐ อาจไม่ทัน แต่ถ้าเราเริ่มลงมือเสียแต่วันนี้ อย่างน้อยเราก็ได้คลองกลับมาเป็นของชุมชนอีกครั้ง”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้ เปิดและขยายเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้ง เ...
อย่ากดปุ่มนี้ของเครื่องปรับอากาศ! ผู้เชี่ยวชาญเผย "ปุ่มอันตราย" ที่ทำค่าไฟพุ่งหล...
เรื่องย่อ The Worst Witch 2 โอมเพี้ยง! แม่มดน้อยสู้ตาย เล่าเรื่องของมิลเดร็ด ...